เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านเลขที่ 414 ม.1 บ้านห้วยข่า ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.กังศดาล ภูธร อายุ 45 ปี แม่ของน้องโมมิ้น อายุ 9 ขวบ ซึ่งต้องทนทุกข์ทรมาณจากเนื้องอกก้อนโตที่ขาขวา ทั้งปวดทั้งทรมาณ ทำให้น้องโมมิ้น ร้องไห้แทบจะตลอดเวลา น.ส.กังศดาล ภูธร อายุ 45 ปี แม่ของน้องโมมิ้น อยู่บ้านเลขที่ 414 ม.1 บ้านห้วยข่า ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเดิมทีน้องโมมิ้น เป็นเด็กที่ร่าเริงสนุกสนาม
โดยช่วงปลายปี 2561 น้องโมมิ้นถูกสุขันกัดที่ขาและพาไปฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จากนั้นก็หายเป็นปกติ ต่อมาในช่วงเดือนมีนาคม 2562 ตอนที่น้องกลับมาจากโรงเรียนน้องบ่นว่าปวดขา ตนก็นึกว่าลูกอาจจะหกล้มตอนที่วิ่งเล่นในโรงเรียนก็เลยหายากินแก้ปวดให้ และมีเนื้องอกเกิดขึ้นเม็ดเล็กๆที่ขาจึงได้พาไปหาหมอ ที่โรงเรียนอำเภอบุณฑริก
จากนั้นหมอบอกว่าน้องเป็นเนื้องอกที่ขา จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งหมอบอกว่าน้องโมมิ้น เป็นโรคมะเร็งเนื้องอกในกระดูด จะต้องทำการตัดขาทิ้ง หากไม่ตัดน้องจะตาย ซึ่งหมอที่ทำการรักษาได้บอกกับน้องโมมิ้นเอง จึงทำให้น้องกลัวและน้องไม่ไปรักษาต่อเนื่อง จึงทำให้เนื้องอกที่ขาขวาโตขึ้นทุกวัน ซึ่งน้องไปหาหมอทั้ง 4 ครั้ง คุณหมอก็บอกอย่างนี้ต่อหน้าน้อง นอกจากนี้คุณหมอยังบอกอีกว่าเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา
คุณหมอให้ทางเลือกว่าจะไม่ตัดขาน้องแล้ว ตัดก็ตายไม่ตัดก็ตาย อีกทั้งหากรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยาฆ่าเชื้อที่จะต้องบรรเทาอาการของน้องก็มีราคาแพง เบิกยาก จึงอยากให้คุณแม่พาน้องกลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็พาน้องไปที่ศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี แต่คุณหมอก็ไม่รับเพราะไม่มีใบส่งตัวผู้ป่วย ซึ่งมาขอให้โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ ทางโรงพยาบาลก็ไม่ส่งตัวไปให้ จึงจำเป้นต้องกลับมาอยู่ที่บ้านรอวันตาย เพราะไม่มีหนทางที่จะช่วยลูกสาวแล้ว น.ส.กังศดาล ภูธร ยังกล่าวอีกว่าตนมีอาชีพทำนา ซึ่งมีที่นาอยู่ 3 ไร่ แต่ในปีนี้ก็ไม่ได้ทำเพราะต้องเทียวพาลูกไปหาหมอ จึงต้องซื้อข้าว อาหาร กินทุกมื้อ
โดยภาระที่แบกรับอยู่ทั้งค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ค่าข้าว ก็ไม่มีจึงจำเป็นต้องขายที่ดินหน้าบ้านเนื้อที่ประมาณ 1 งาน ได้เงินมาจำนวน 20,000 บาท ก็หมดแล้ว จึงอยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจกาคุณหมอที่ศูนย์มเร็งจุฬาภรณ์ กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่าที่นี่จะเป็นทางเดียวที่จะทำให้ลูกสาวหายได้ ช่วยรับน้องไปรักษาให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติของเด็กอีกครั้ง ขณะที่วันนี้ทีมกู้ภัยรวมใจโนนก่อ อ.สิรินธร ที่ทราบข่าวจึงได้นำเอาน้ำดื่ม อาหารแห้ง และเงินที่รวบรวมกันมาได้ส่วนหนึ่งมามอให้กับคุณแม่และน้องโมมิ้น เพื่อใช้ในการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และวิงวอนให้ผู้ใจบุญได้ข้ามาช่วยเหลือในการพาน้องไปรักษาที่ศูนย์มะเร็งจุฬาภรณ์ เพื่อให้โอกาสเด็กอายุ 9 ขวบ ได้มีโอกาสมีชีวิตที่ร่าเริงกลับคืนมา เพราะครอบครัวนี้ยากจนไม่มีเงินที่จะพาน้องไปรักษา
แม้กระทั้งเงินในการซื้ออาหารกินในแต่ละวันก็ยังลำบาก สำหรับน้องโมมิ้น ก่อนที่จะป่วยน้องเรียนอยู่ชั้น ป.3 ของโรงเรียนบ้านห้วยข่า อ.บุณฑริก หลังจากที่ป่วยมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 น้องก็ไม่ได้ไปโรงเรียนอีกเลย ก็มีคุณครูและเพื่อนบ้านได้สมทบเงินช่วยกันมาคนละ 100-200 บาท ได้เงินประมาณ 3,000 บาท ในการไว้ซื้อยาแก้ปวดให้น้องโมมิ้น ซึ่งผู้ใจบุญสามารถช่วยเหลือค่าอาหาร ค่ายาแก้ปวด และสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่จำเป็น ให้กับครอบครัวน้องโมมิ้น ได้ทางบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (โครงการ) ชื่อบัญชีนางสาวกังศดาล ภูธร
ขอให้น้องหายไวๆนะคะ
เรียบเรียงโดย ภานุภพ ยุตกิจ ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.อุบลราชธานี